วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่คือ นาย มงคล สุระสัจจะ ได้รับเสนอให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยการผลักดันของ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แทนมานิต วัฒนเสน
นายมงคล สุระสัจจะ ได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ โดยน่าจะอาศัย นาย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล ฃึ่งท่านได้ยืนยันให้นายมงคล สุระสัจจะ เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้ง นายมงคล สุระสัจจะ นักบริหารระดับสูง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่พระกรุณาฯ แต่งตั้งเป้นต้นไป
วิเคราะห์ข่าว
จากแนวคิดของวูดโรว์ วิลสัน ที่ว่าด้วยการบริหารไม่สามารถแยกออกจากการเมืองได้ กล่าวคือการกำหนดนโยบายของฝ่ายบริหารนอกจากขึ้นอยู่กับการควบคุมของฝ่ายนิติบัญญัติแล้ว ขึ้นอยุ่กับประชาชน คือการตัดสินใจของฝ่ายบริหารมีผลกระทบต่อกลุ่มของตนอย่างไร


โดย นางสาวอมรรัตน์ วาหะรักษ์
รปศ.531 เลขที่ 47

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

ประหลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่

เบื้องลึก.... "มานิต"สร้างประวัติศาสตร์ "สิงห์ขาว"นั่งปลัดคลองหลอด

ใน ที่สุดคณะรัฐมนตรีก็มีมติแต่งตั้งให้ "นายมานิต วัฒนเสน" อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ให้ไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย แทนนายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน

หลายคนไม่แปลกใจเพราะชื่อของ "นายมานิต" นั้นมาแรงตั้งแต่ไก่โห่ แม้จะมีการคาดเดาไปต่างๆ นานา ว่าสุดท้ายชื่อนี้อาจหลุดโผ

แต่ความแรงของ "นายมานิต" ก็ไม่มีใครสามารถสกัดกั้นไว้ได้

จึง เกิดคำถามว่าชื่อของ "นายมานิต" ไปเข้าตา "นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือทำไมผู้ทรงอิทธิพลนอกกระทรวงอย่าง "นายเนวิน ชิดชอบ" หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย ถึงได้โปรดปรานคนคนนี้หนักหนา

และอย่างน้อย "นายมานิต" ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์จารึกไว้บนแผ่นทองเหลืองหน้ากระทรวงว่า "สิงห์ขาว" หรือคนที่จบจากคณะรัฐศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ได้เป็นปลัดกระทรวงคลองหลอดคนแรก ทำลายกำแพงที่เคยผูกขาดเฉพาะ "สิงห์ดำ" จบจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ หรือ "สิงห์แดง" จบจากคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เท่านั้น

หากดูจากประวัติของ "นายมานิต" จะพบว่าสายสัมพันธ์การเมืองที่ได้สร้างไว้ ได้กลายเป็นตัวอุปถัมภ์ให้ก้าวมาไกลเกินคาด

ชื่อ ของเขาเข้าไปอยู่ในใจของ "นายเนวิน" ตั้งแต่สมัยที่รับราชการเป็นรองผู้ว่าฯปัตตานี เมื่อครั้งที่นายเนวินเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายมานิตอาสาเข้าไปดูแลนายเนวินเป็นพิเศษชนิดยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมจึง เป็นที่มาของชะตาที่ต้องกัน

ต่อมาเมื่อการเลือกตั้งทั่วไปปี 2548 นายเนวินได้ขออาสา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ลงไปเป็นแม่ทัพลงพื้นที่หาเสียงในภาคใต้ และได้สถาปนาขุนพลคู่ใจคือการผลักดันให้ "นายมานิต" ขึ้นเป็นผู้ว่าฯสตูล คอยเป็นมือเป็นไม้ช่วยเหลือพรรคไทยรักไทยหาเสียงเลือกตั้งแข่งกับเจ้าของ พื้นที่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ และตั้งแต่ครั้งนั้นพรรคประชาธิปัตย์รับรู้ได้ว่านายมานิตนั้นฝังตัวอยู่ใน สายเนวินแล้ว

จนเข้าสู่ยุคปฏิวัติโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) นายมานิต ต้องรับชะตากรรมถูกเก็บเข้ามาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย

และเมื่อมีการเลือกตั้งพรรคพลังประชาชนได้มาเป็นรัฐบาล จึงได้ผงาดตามแรงส่งของนายเนวินขึ้นเป็นผู้ว่าฯขอนแก่น

เมื่อ เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้วการเมืองพรรคภูมิใจไทยหันมาจับมือกับพรรคประชาธิปัต ย์ ยิ่งทำให้บารมีของนายเนวินเบ่งบาน เฉกเช่นเดียวกับ "นายมานิต" ที่ถูกเลื่อนชั้นให้เข้ามาคุมกรมใหญ่งบประมาณเยอะคือส่งเสริมการปกครองท้อง ถิ่น

และเมื่อโชคชะตากำหนดเมื่อปลัดกระทรวงคนปัจจุบันต้องเกษียณอายุ ราชการ ยิ่งทำให้ "นายมานิต" เป็นตัวเต็งหามที่จะมาเป็นปลัดคนใหม่ แม้จะมีกระบวนการของสิงห์สีต่างๆ คอยเตะสกัด แต่เมื่อชื่อเข้าไปอยู่ในใจของ "นายเนวิน" แล้วก็ยากที่จะมีอะไรเปลี่ยนแปลง

ยิ่งไปกว่านั้นนายเนวินยังได้ หารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้จัดการรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้เหตุผลที่เลือกนายมานิต แม้ลำดับความอาวุโส ความสามารถและความเหมาะสมจะเป็นรองคนอื่น

นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ที่มีอาวุโสเป็นอันดับ 1 มาหลายสมัย แต่เหตุผลคือชื่อนี้ไม่ตอบสนองการเมือง เกรงว่าจะกระด้างกระเดื่องไม่แต่งตั้งโยกย้ายตามโผของฝ่ายการเมือง

นาย วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง เหตุผลคือมีความสนิทสนมกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างมาก แม้ว่าปัจจุบันจะตอบสนองงานและเข้ากับฝ่ายการเมืองได้เป็นอย่างดี แต่ความกังวลยังมีอยู่ เพราะเมื่อฤดูกาลเลือกตั้งมาถึงหาก "นายวงศ์ศักดิ์" ดูทิศทางลม หันไปให้ความช่วยเหลือพรรคเพื่อไทย ความวิบัติจะมาเยือนพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ได้

นายไพ รัตน์ สกลพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน (พช.) แม้ผูกพันกับ จ.บุรีรัมย์มายาวนาน และขึ้นจากผู้ว่าฯนครนายกเป็นอธิบดี พช. แต่ยังถือว่าใหม่กับการเมือง กลยุทธ์วางเลือกตั้งยังไม่ชำนาญ จึงต้องให้อยู่ในตำแหน่งเดิมไปก่อน

เมื่อนายเนวินฟันธงว่าไม่ปลายปีนี้ก็ต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้งแน่นอน

ดัง นั้นหากต้องยุบสภาเลือกตั้งใหม่การจัดวางคนของตัวเองโดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ซึ่งถือเป็นกลไกหลักในการเลือกตั้งทุกครั้ง การให้คนที่ตนเองไว้วางใจมากที่สุดมาเป็นมือเป็นไม้ มันง่ายที่จะคำนวณ ส.ส.ที่พรรคคาดหวังได้

แม้เหตุผลต่างๆ ที่อ้างมา "นายชวรัตน์" เจ้ากระทรวงและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยหุ่นเชิด จะมีท่าทีไม่เห็นด้วย แต่ไม่อาจจะทัดทานความต้องการของผู้มีบารมีนอกกระทรวงได้

แม้จะ พยายามขอให้เลื่อนการแต่งตั้งออกไปก่อน แต่นายเนวินอ้างว่าจะใช้จังหวะชุลมุนที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังวุ่นอยู่กับโผ ตำรวจ เพราะหากถ้าฝุ่นตำรวจจาง กลัวว่าประชาธิปัตย์จะมาร่วมวงล้วงลูกมหาดไทยแทน

และเมื่อช่วงค่ำของ วันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรยากาศงานเลี้ยงที่ครื้นเครง หลังจากที่นายเนวินได้ตกลงกับนายชวรัตน์ในฐานะผู้ที่จะต้องถือชื่อเข้าที่ ประชุม ครม.เพื่อรับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายชวรัตน์เอ่ยปากถามนายเนวิน "อย่างนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมต้องรับผิดชอบคนเดียวซิ"

นาย เนวินบอกว่า "ไม่ต้องกลัวอา เพราะอามีกองเชียร์เพียบ" สิ้นเสียงของนายเนวิน บรรดากองเชียร์ส่งเสียงเฮกันดังลั่นห้องจัดเลี้ยง ก่อนที่นายมานิตจะกล่าวขอบคุณทุกคน

(น.ส ขวัญฤทัย ภูมิลา รปศ.531 เลขที่ 7)

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

การแต่งตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทยคนปัจจุบัน

อดีตบิ๊กมหาดไทย โวย แต่งตั้ง "มงคล" ปลัดคนใหม่
สรุปประเด็นข่าว

นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยและนายโชดก วีรธรรมพูลสวัสดิ์ นายกสมาคมข้าราชการบำนาญกระทรวงมหาดไทย แถลงคัดค้านการแต่งตั้ง นายมงคล สุระสัจจะ เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่
ทั้งหมดได้ลงความเห็นแถลงข่าวว่า ขาดคุณสมบัติความอาวุโสและภาพรวมแล้ว นายมงคล มีลำดับอาวุโสอยู่ที่ 54 ขาดประสบการณ์ไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และมองว่าการแต่งตั้งครั้งนี้น่าจะมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากนายมงคล เคยเป็นผู้ว่าราชการ จ.บุรีรัมย์ มีความสัมพันธ์กับผู้มีอำนาจในกระทรวง

การแต่งตั้งจึงต้องมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอนซึ่งผิดกฎหมายข้าราชการไม่เป็นธรรม ทำให้การเมืองเข้ามาแทรกแซง ข้าราชการเรียกร้องนายกรัฐมนตรีเข้ามาดูแลเรื่องนี้หากปล่อยไว้จะเป็นการทำลายระบบคุณธรรมในราชการ

หลังจากนี้การทำหน้าที่จะมีการสนองนโยบายของการเมือง พร้อมเรียกร้องให้มีการติดตามการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งที่เหลือด้วย
ขณะเดียวกัน นายพงศ์โพยม ยังเรียกร้องให้ข้าราชการแสดงออกในการแต่ต้านการแต่งตั้งครั้งนี้ที่ไม่เป็นธรรม และอย่าหวั่น

วิเคราะห์ข่าว

ในการบริหารบ้านเมืองนั้นจะต้องเด็ดขาดเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายของรัฐบาล เพื่อที่จะสามารถพัฒนาระบบบริหารที่มีประสิทธิภาพ และแยกการเมืองออกจากฝ่ายบริหาร จากแนวคิดของ วูดโรว์ วิลสัน การบริหารบ้านเมืองนั้นถ้ามีการแทรกแซงทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องจะทำให้การบริหารไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

( นาวสาว อนุสรา ชื่นอารมณ์ เลขที่ 45 ห้อง รปศ.531)